พระมหากษัตริย์ของไทยเสียชีวิตก็จะกลัวว่าประเทศลื่นไถลลงไปในความสับสนวุ่นวาย

ไทยราชวงศ์ประกาศวันพฤหัสบดีการตายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มันเป็นบนบัลลังก์ตั้งแต่ปี 1946 - เป็นพระมหากษัตริย์กับการครองราชย์ยาวนานที่สุด - และแม้จะมีอำนาจไม่กี่ร่างของเขาเป็นที่เคารพนับถือโดยคนไทย

มันก็ยังเป็นคนสำคัญในภูมิทัศน์ที่เปราะบางของการเมืองไทย ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประเทศที่มีประสบการณ์ทหารสองคนสู้อำนาจที่อยู่ห่างออกไปจากรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ทั้งสองแผ่นดินถล่มถูกมองว่าเป็นปฏิกิริยาของกลางและชั้นสูงของเมืองใหญ่กับการสนับสนุนการเลือกตั้งที่ได้รับจากผู้คนในชนบทโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตอนเหนือของประเทศทางการเมืองประชานิยมการพิจารณา

นับตั้งแต่การรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2014 ว่าประเทศที่ถูกปกครองโดยรัฐบาลทหารที่มีความเข้มข้นของตัวเองมากขึ้นและมีพลังมากขึ้น ในบริบทนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลถูกสมดุลองค์ประกอบ มีความหวาดกลัวว่าการตายของเขาโยนประเทศเข้าสู่ช่วงเวลาของความไม่แน่นอนอยู่

หัวของทหารพลเอกประยุทธจันทร์โอชากล่าวว่าสมเด็จพระยุพราชไม่เป็นที่นิยมมากวชิราลง 63 (ที่ใช้เวลามากในต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเยอรมนี) พร้อมที่จะถือว่าภาระหน้าที่ของตน

ก่อนประยุทธกล่าวว่ามกุฎราชกุมารได้ขอเวลาเพื่อไว้อาลัยพร้อมกับส่วนที่เหลือของประเทศ "เราจะรอเวลาที่เหมาะสม" ที่จะประกาศผู้สืบทอดประกาศหัวของรัฐบาล

ทั่วไปยังประกาศเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศขณะที่พวกเขาเตรียมความพร้อมสำหรับหลายวันของพิธีศพ



สุขภาพภูมิพล 88 ได้แย่ลงอย่างมากในปีที่ผ่านมาพระมหากษัตริย์ได้รับการเชื่อมต่อกับเครื่องช่วยหายใจ

ภูมิพลมาสู่บัลลังก์โดยวิธีการของโศกนาฏกรรม: พี่ชายของอนันดาจะเปิดขึ้นมาในเช้าวันหนึ่งตายอยู่บนเตียงของเขาด้วยการยิงหัว สมาชิกสามคนของพระราชวังถูกตั้งข้อหา แต่มักจะยังคงสงสัยว่ามันเป็นภูมิพลตัวเองที่จะฆ่าน้องชายของเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ วิทยานิพนธ์ถูกขั้นสูงโดยนักข่าวชาวอังกฤษแอนดรูเกรเกอร์มาร์แชลล์, หนังสือแย้งว่าเป็นสิ่งต้องห้ามในประเทศไทยและทำให้เขาได้รับการขับไล่จากประเทศ

เจ้าชายหนุ่มหันออกไปเถลิงราชสมบัติ แต่พิธีราชาภิเษกอย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเพียงสี่ปีต่อมาตั้งแต่ภูมิพลได้รับการศึกษาในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งเขาใช้เวลาในวัยเด็กของเขา นี่เป็นช่วงเวลาที่พระมหากษัตริย์ไทยอ่อนแอไม่มีอำนาจใด ๆ ที่จริงตั้งแต่การเข้าสู่อำนาจของระบอบการปกครองตามรัฐธรรมนูญในปี 1932 เกิดในสหรัฐอเมริกาโดยไม่มีสิ่งที่แนบมาซาบซึ้งใด ๆ ไปยังประเทศที่สร้างขึ้นหลายพันกิโลเมตรและแม้จะไม่มีการเรียนรู้ภาษาได้เป็นอย่างดี ภูมิพลตอนนี้พระรามเก้ามีทุกอย่างที่จะเป็นกษัตริย์เมื่อเวลาผ่านไป

เล็ก ๆ น้อย ๆ หลังสงครามไทยจะทำอย่างไรกับเขา "รูปของความทันสมัยในสังคมศักดินาเกือบติดอยู่ในศตวรรษที่สิบเก้ากษัตริย์หนุ่มแล่นเรือเล่นดนตรีแจ๊สมีสถานีวิทยุของตัวเองภาพวาดน้ำมัน Expressionist และเข้าร่วมงานปาร์ตี้ของชนชั้นสูง" เขียนนักข่าวพอลแฮนลีย์ ประวัติไม่ได้รับอนุญาตปี 2006 King Never Smiles


สยามมกุฎราชกุมารทรงเป็นที่นิยมอย่างสูง

และแม้ว่ากษัตริย์รวมอำนาจของเขาและเรียนรู้ที่จะนำทางน้ำขายชาติของการเมืองไทย ในช่วงเจ็ดทศวรรษที่ผ่านมาของการครองราชย์ภูมิพลดูสิบรัฐประหารโดยไม่มีอำนาจของเขากำลังถูกท้าทาย ในความเป็นจริงหลักติดระหว่างการทุจริตของชนชั้นทางการเมืองและอำนาจของนายพลที่พระมหากษัตริย์ใน reposed ชอบธรรมทางการเมือง รอบ ๆ ตัวเขาวังที่มีการจัดการที่จะมุ่งเน้นผลประโยชน์มักจะแตกต่างกันในสังคมขั้วมากเช่นประเทศไทย

"รัฐบาลเกิดขึ้นใหม่ของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ราชาธิปไตจัดตั้งเก่านายทุนชนชั้นเชื้อชาติจีนและการทหารที่ถูกยึดโดยยิ่งขึ้นสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่ง unites คณาธิปไตยในเว็บธุรกิจธุรกิจและการลงทุน" เขาเขียนไว้ใน 2014 แอนดรูเกรเกอร์มาร์แชลล์ในหนังสือของเขาราชอาณาจักรในภาวะวิกฤต นอกจากนี้ยังมีทุนทางการเมืองของพระมหากษัตริย์ไทยไว้ด้วยมหาศาล - ตามที่นิตยสาร Forbes เป็นแม้กระทั่งที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมูลค่ากว่า 30 พันล้านบาท (2.7 หมื่นล้านยูโร)

หนึ่งในมรดกของเขาเป็นที่กำหนดทางเศรษฐกิจปรัชญา "เศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรและการผลิตอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานของประเพณีชนบท

แม้จะมีอำนาจอย่างเป็นทางการไม่กี่กำหนดให้มันแทรกแซงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลปีที่ผ่านมาได้รับการพิสูจน์ที่จะแตกหักทั้งหุ้นและการละเว้น ในปี 1973 เขาได้รับอนุญาตโฮสต์ของผู้ประท้วงต่อต้านกองทัพป้องกันการฆ่าของพวกเขา แต่เขาไม่สามปีต่อมาเมื่อกลุ่มนักศึกษาฝ่ายซ้ายถูกรุมประชาทัณฑ์โดยอาสาสมัครสนับสนุนรัฐบาล ผลของการรัฐประหารทหารต่างๆขึ้นอยู่เสมอในความยินยอมโดยปริยาย - หรือขาดมัน - โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล